น่าน- จัดกิจกรรมปลูกป่าและป้องกันไฟป่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2564

วันนี้ (31 พ.ค.64) เวลา 09.30 น. ที่บริเวณป่าบ้านน้ำใส หมู่ที่ 5 ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2564 โดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจ และประชาชนทั่วในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 300 คน

ร่วมกันปลูกต้นไม้ เนื่องในวันต้นไม้ประจำของชาติ ซึ่งการจัดกิจกรรมเป็นการปลูกต้นไม้และปลูกป่า พร้อมทั้งบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของข้าราชการ ทุกภาคส่วน ในการร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน


สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ภายใต้ชื่อ “รวมใจไทย ปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดิน” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น จังหวัดน่าน และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 อนุมัติให้ วันวิสาขบูชาของทุกปีเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ โดยเชิญชวนให้หน่วยงานทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เพื่อเป็นการสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ

โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่านร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2564 ขึ้น บริเวณพื้นที่ป่าบ้านน้ำใส หมู่ที่ 5 ตำบลฝ่ายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน และร่วมกันปลูกต้นไม้ จำนวน 1,000 ต้น เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดน่าน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนได้ร่วมใจและบูรณาการปลูกต้นไม้และปลูกป่า

พร้อมทั้งบำรุงรักษาต้นไม้ให้เจริญเติบโตงอกงามอันเป็นการสนองพระราชดำริด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มีการปลูกต้นไม้ในใจคน ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจที่มีส่วนถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมให้มีความอุดมสมบูรณ์สืบไป

………………………………………………