เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 23.30 น. ภายใต้การอำนายการแจ้งข้อกล่าวหาโดย พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จ.น่าน, , พ.ต.อ.วินัย เกตุพันธุ์, รอง ผบก.ภ.จ.น่าน , พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กัลยาวัฒนเจริญ รอง ผบก.ภ.จ.น่าน, พ.ต.อ.พงศกร รัศมีโรจน์สกุล รอง ผบก.ภ.จ.น่าน , พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ เมฆคะ รอง ผกก.สส.ภ.จ.น่าน, ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ปัญญาเนรมิตดี ผกก.สส.ภ.จ.น่าน, พ.ต.ท.อุทัย วงค์คำแสน รอง ผกก.สส.ภ.จ.น่าน พ.ต.ท.นิติภูมิ ผดุง, พ.ต.ต.กฤษฏิพิสิษฐ์ ธรรมศิริ, พ.ต.ต.อดิเรก ยาปัน, ร.ต.อ.ประทีป คำภิระ,ร.ต.อ.เผ่าพันธ์ ซ้อนกัน, ร.ต.อ.ชวน ทองสุข พ.ต.อ.มนตรี ถาวร ผกก.สภ.เชียงกลาง, พ.ต.ท.สุระพล เทพเสน รอง ผกก.สส.สภ.เชียงกลาง, พ.ต.ท.วาณัฐพงศ์ สันติพงศธร สว.สสฯ ประกอบด้วย ร.ต.อ.วันไชย เตชนันท์
เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เชียงกลาง จ.น่าน , พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว,พ.ต.ท.สัณห์ ล้านนา รอง.ผกก.สส.สภ.ปัว,พ.ต.ท.สมชาย ปาละ สว.สสฯ,เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.ปัว , พ.ต.ท.สิรวิชญ์ ท้วมสุวรรณ รอง ผกก.สอบสวน.สภ.บ่อเกลือ ปฎิบัติราชการ ภ.จ.น่าน
ได้ร่วมกันจับกุมตัว ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 154 บ้านห้วยท้าง หมู่ 5 ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว จ.น่าน (อดีต จนท.ตร.ตม.อุดรธานี) พร้อมด้วยของกลางคือ 1. รถยนต์หมายยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักษ์ วีโก้ สีดำ ทะเบียน กอ 3327 อุดรธานี จำนวน 1 คัน 2. สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น ห่อหุ้มด้วยกระดาษสีขาว 3. แหวนทองคำ จำนวน 1 วง 4. กระเป๋าแบบถือสีเขียว จำนวน 1 ใบ ได้บริเวณถนนหน้าโลตัสาขาปัว บนถนนสายน่าน – ทุ่งช้าง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย” ตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน(สาขาปัว) ที่ จ.5/2564 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
สืบเนื่องวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เชียงกลางได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เชียงกลาง ว่ามีเหตุคนนอนเสียชีวีตอยู่ในป่าละเมาะเขตติดต่อ อ.เชียงกลาง – อ.สองแคว บริเวณเขตบ้านหนองผุก หมู่ที่ 10 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน จากนั้นจึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ร่วมกับนายนิติปกรณ์ แสงสุวรณ นายอำเภอเชียงกลาง ได้มอบหมายให้ นายสุนทร บูรณกิตติ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง
นำสมาชิก อส.ประสาน จนท.ตร.สภ.เชียงกลาง
แพทย์โรงพยาบาลเชียงกลาง เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเมื่อไปถึงพบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.รัตติกาล เตชะ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 139 หมู่ 12 ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน สภาพศพเสื้อยืดแขนกุด สีน้ำตาลดำลายขวางตัดขาวใส่กางเกงยืนขายาว ไม่สวมรองเท้า นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าละเมาะดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบสวนหาข่าวทราบว่า
ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีนายสม เตชะ อายุ 73 ปี บ้านเลขที่ 139 หมู่ที่ 12 ตำบลสถาน อำเภอปัว จังหวัดน่าน ได้ไปแจ้งสถานีตำรวจอำเภอปัว ว่า นางสาวรัตติกาล เตชะ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว ได้คบหาฉันสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับ ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ อาศัยอยู่ที่บ้านแดนพนา หมู่ที่ 7 ตำบลไชยวัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ไม่สามารถติดต่อกับนางสาวรัตติกาลฯ ลูกสาว ได้สาเหตุมาจาก นางสาวรัตติกาลฯและร.ต.อ.ประกอบฯได้มีปัญหาภายในครอบครัวกัน ทางนายสมฯจึงได้มาลงบันประจำวันไว้
ซึ่งตรงกับที่ จนท.ชุดเฉพาะกิจในครั้งนี้สืบทราบว่า
ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 154 หมู่ที่ 5 ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว จ.น่าน ซึ่งเป็นแฟนของน.ส.รัตติกาล จากการสอบถามญาติผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายคบหากับนายประกอบ หมื่นพันธ์ และอยู่ด้วยกัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปที่บ้าน ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ แต่ไม่พบจึงได้ออกสืบสวนติดตามไปในเขตพื้นที่อำเภอปัว จากการสอบถามญาติ ใช้รถกระบะแบบสี่ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 3327 อุดรธานี จนกระทั่ง พบว่าขับอยู่บนถนนสายน่าน – ทุ่งช้าง บริเวณถนนหน้าโลตัสสาขาปัว ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวพร้อมกับส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบ ร.ต.อ.ประกอบฯเป็นคนขับรถคันดังกล่าว จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เชียงกลาง ซึ่งจากการสอบสวน ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ ในเบื้องต้นยอมรับว่า เป็นคนฆ่าน.ส.รัตติกาล เตชะ และยินยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมา พงส.สภ.เชียงกลาง จึงได้เดินทางไปขออำนาจศาลจังหวัดน่าน สาขาปัว ออกหมายจับ ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ พร้อมแสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาให้ ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ ทราบและนายประกอบ หมื่นพันธ์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยให้การอ้างว่าที่ตนได้กระทำไปเพราะเหตุบันดาลโทษะจึงได้บันทึกการจับกุมพร้อมได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.เชียงกลาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
มาเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันตรวจค้นบ้าน ร.ต.อ.ประกอบ หมื่นพันธ์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 154 บ้านห้วยท้าง หมู่ 5 ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว จ.น่าน ชื่อว่าบ้านสวนทะเลหมอกซึ่งปลูกในเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่กว่าซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยและโรงเก็บรถยนต์จากการตรวจค้นรถยนต์เก๋งhonda city สีบรอนซ์ทะเบียนกษ 9841 อุดรธานีที่ท้ายรถยนต์เก๋งพบรองเท้าเสื้อผ้าของผู้ตายพบอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดจำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืนอาวุธปืน ขนาด .11 มม. พร้อมเครื่องกระสุนซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุในครั้งนี้จำนวน 1 ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุในครั้งนี้จำนวน 1 กระบอกอาวุธปืนจุด 38 สมิทชิพพร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอกอาวุธปืนขนาด 380 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืนจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าอาวุธปืนทั้งหมดมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายซึ่งตนซื้อมาจากสวัสดิการของกรมตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจในการตรวจสอบ
หลังจากนั้นจึงได้เข้าตรวจสอบที่ห้องพักชั้นล่างบ้านหลังใหญ่เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ของผู้ต้องหาในวันที่เกิดเหตุไว้เป็นของกลาง
ต่อมาเวลา 13.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจึงได้ควบคุมตัว ร.ต.อ.ประกอบ ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพซึ่งห้องที่เกิดเหตุอยู่ในสวนสัตว์แบ่งเป็นห้องพักอาศัยโดยห้องที่เกิดเหตุอยู่ทางทิศตะวันตกของห้องที่ตำรวจไม่พบร่องรอยรอยเลือดหรือหลักฐานอีกหลักฐานต่างๆเนื่องจากห้องดังกล่าวได้ถูกทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้วพบเพียงแต่ร่องรอยหัวกระสุนติดฝาผนังจำนวน 1 แห่ง ตัวให้การรับสารภาพว่าหลังจากที่ตนเองกับผู้ตายได้พากันไปทำบุญที่วัดภูเก็ตหลังจากนั้นได้มาห้องที่เกิดเหตุซึ่งได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงโดยที่ผู้ตายได้ตบหน้าตนและต่อว่าทออย่างรุนแรงตนเองจึงบันดาลโทสะจึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด 11 อย่างรุนแรงตนเองจึงบันดาลโทสะจึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.อาวุธปืนของกลางที่ตรวจยึดไว้ยิงเข้าที่ขมับด้านซ้ายของผู้ตาย จำนวน 1 นัด จากนั้นตนจึงได้นำเชือกมามัดแบบมัดตราสังแล้วนำมาขึ้นรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตูรถของกลางแล้วนำศพไปทิ้งเพื่ออำพรางคดีตรงจุดที่เกิดเหตุพบศพจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามสืบสวนติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
โทร.0848084888