ชมรม “มิตรอาสานันทบุรี” มอบสิ่งของชาวมลาบรีบ้านห้วยหยวก

 

จิตอาสา “ชมรมมิตรอาสานันทบุรี” ร่วมใจบริจาคทรัพย์สิน เสื้อผ้า ของใช้ ให้กับชาวมลาบรีหรือเผ่าตองเหลือง บ้านห้วยหยวก อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.61 นายเจริญชัย แปงล้วน  ประธานชมรมมิตรอาสานันทบุรี (เส้นทางมิตรภาพ  ฅนอาสา) ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ จ.น่าน อาทิ ชมรมเครื่องเสียงซิ่ง จ.น่าน ชมรมกระบะดีเซลเมืองน่าน,น่านรถซิ่งคลับ,กลุ่มโค-เซ็ม-บอย  ,หนังสือพิมพ์น่านนิวส์  และผู้มีน้ำใจสนับสนุนต่างๆ ร่วมใจบริจาคทรัพย์สิน เสื้อผ้า ของใช้  น้ำดื่ม และขนม ให้กับชาวมลาบรีหรือเผ่าตองเหลือง ณ บ้านห้วยหยวก หมู่ 6 ตำบลแม่ขะนิง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน  ที่ปัจจุบันชนเผ่ามาลาบรี มีจำนวนประชากร 185 คน 33 หลังคาเรือน 45  ครอบครัว

นายเจริญชัย   กล่าวว่า การมาเยี่ยมชนเผ่ามาลาบรีในครั้งนี้ เป็นการมาเยี่ยมเยือนพบปะพี่น้องชนเผ่ามาลาบรี เพื่อนำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคมามอบให้ทุกครอบครัว เพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอากาศหนาวที่กำลังมาถึงในช่วงนี้

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า มาลาบรี (มละ) หรือ ผีตองเหลือง ชนกลุ่มนี้เรียก ตัวเองว่า “คนป่า” หรือ “มลาบรี” ไม่ชอบถูกเรียกว่า “ผีตองเหลือง” แต่ที่ผู้คนในที่ราบ คุ้นเคยกับคำว่า “ผีตองเหลือง” อาจเนื่องมาจากคนป่ากลุ่มนี้ มักชอบหายตัวไปอย่างว่องไว เมื่อเผชิญกับคนแปลกหน้าจะทิ้งไว้เพียงเพิงพัก ซึ่งมุงด้วยใบตองกล้วยป่าที่ผ่านการใช้งานมาหลายวัน จนใบตองเปลี่ยนจากสีเขียว จนเป็นสีเหลือง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มองโกลอยด์ดั้งเดิม เป็นกลุ่มชนเร่ร่อนไม่ตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่ง เดิมมีถิ่นฐานอยู่ในเขตจังหวัด สายะบุรี ประเทศลาว ต่อมาเริ่มอพยพไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ เช่น แถบภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ แถบภูกระดึง จังหวัดเลย และตามดอยสูงในป่าทางภาคเหนือของประเทศไทย บางครั้งการย้ายนั้นไม่ใช่ว่าอาหารในป่าหมด แต่เป็นเพราะว่า ชนเผ่า “มละ” นั้นเกรงกลัวมนุษย์ ที่จะไปรุกราน รบกวน หรือทำร้ายพวกเขา ฉะนั้นเมื่อมีคนแปลกหน้าหรือได้ยินเสียงคนก็ตามเข้าไปใกล้เขตที่พวกเขาอาศัยอยู่ พวกเขาก็จะพาครอบครัวหลบหนีอย่างว่องไว โดยทิ้งไว้แค่เพิงพักอาศัยเท่านั้น.

ปฎิญญา  เรือนงาม ข่าว/ภาพ จังหวัดน่าน  รายงาน