เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 60 ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการปฏิบัติงานการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ โชว์ฝีมือตำรวจ สภ.นาน้อย จังหวัดน่าน ที่ด่านตรวจกิตตินันท์ ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน หลังการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า จำนวน 14 กระสอบ บรรจุยาบ้าประมาณ 2.8 ล้านเม็ด พร้อมรถยนต์ จำนวน 3 คัน สารภาพรับขนยาบ้ามาจากจังหวัดพะเยา เพื่อส่งลูกค้าในภาคกลาง
ที่ลานหน้า ภ.จว.น่าน. พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ประธานแถลงผลการปฏิบัติงานการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ได้ผู้ต้องหา 7 คน ของกลางยาบ้า 2.8 ล้านเม็ด พร้อมรถยนต์อีกจำนวน 3 คัน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจกิตตินันท์ ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด หลังทราบว่าจะมีชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่ ตำบลพบพระ จังหวัดน่าน จะลำเลียงยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนมาก มาจากพื้นที่จังหวัดพะเยา ผ่านทางอำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน พ.ต.อ.ถนัด พลพาณิช ผกก.สภ.นาน้อย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านกิตตินันท์ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมวางแผนการจับกุม โดยตั้งด่านที่บริเวณด่านตรวจกิตตินันท์ หมู่ 2 ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน และกำลังอีกส่วนหนึ่งได้ไปอยู่ตามรายทางก่อนถึงด่านตรวจกิตตินันท์อีกจำนวน 2 ชุด เพื่อรายงานความเคลื่อนไหว
จนกระทั่งเมื่อเวลา 02.30 น. ได้มีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน งจ 1943 ชลบุรี มีผู้โดยสาร 2 คน และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน บท 9970 ตาก มีผู้โดยสาร จำนวน 3 คน และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา หมายเลขทะเบียน 2 ฒจ 7776 กรุงเทพมหานคร มีผู้โดยสาร จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสังเกตเห็นกระบะบรรทุกสิ่งของคล้ายว่าจะเป็นยาเสพติด จึงได้ขอทำการตรวจค้นผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาบ้า จำนวน 14 กระสอบ ประมาณ 2.8 ล้านเม็ด โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า ขนยาบ้ามาจาก อ.เชียงคำ จังหวัดพะเยา เพื่อส่งยังปลายทาง จังหวัดอยุธยา จึงได้ทำการจับกุมได้ผู้ต้องหารวม 7 คน รถยนต์ จำนวน 3 คัน ได้แก่ รถเก๋งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน งจ – 1943 ชลบุรี (รถคันนำที่ 1) รถกระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิซิ รุ่น ไทรตัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บท – 9970 ตาก (รถคันนำที่ 2) รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒจ 7776 กทม. (บรรทุกยาเสพติด) และของกลางยาบ้า จำนวน 14 กระสอบ จำนวน 2,800,000 เม็ด
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันเดินทางไปรับยาบ้าดังกล่าว มาจากสวนยางใกล้กับปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา โดยมีนายสุชาติ อย่างคุณธรรม เป็นผู้ติดต่อรับยาบ้านจากนายเค่า (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) โดยตกลงกันว่า จะให้ลำเลียงยาบ้านจากอำเภอภูซาง ไปส่งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในราคา 8 แสนบาท แบ่งกัน 4 ครอบครัวๆละ 2 แสนบาท โดยขับรถออกจากอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เวลาประมาณ 21.30 น. มาตามเส้นทางอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ อำเภอสองแคว อำเภอท่าวังผา อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา จนถึงมาถึงอำเภอนาน้อย และมาถึงด่านตรวจกิตตินันท์ หมู่ 2 ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด และได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน พร้อมของกลางยาบ้านและรายการอื่นๆ มายัง สภ.นาน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการแถลงผลการจับกุม ในวันนี้( 29 พ.ย.60) พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานแถลงผลการปฏิบัติงานการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในครั้งนี้ พร้อมด้วย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปปส.ภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจติดตามทำข่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจับกุมยาเสพติดเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามแผนประชารัฐร่วมใจสร้างหมู่บ้านชุมชนมั่งคงปลอดภัยยาเสพติด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. ในการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนได้ตระหนักถึงภัยร้ายแรงของยาเสพติด รวมถึงเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและให้ความสำคัญกับบุคลากรและองค์กร ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในครั้งนี้ ได้มีการมอบเงินสดให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก
กองบรรณาธิการ นสพ.น่านนิวส์